ถึงแม้ว่าขณะนี้ประเทศไทยมีปริมาณฝนตกเพิ่มมากขึ้น แต่จากข้อมูลการรายงานของกรมชลประทาน พบว่าสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บขนาดใหญ่ยังคงมีน้ำใช้การในปริมาณน้อยกว่าเกณฑ์ คือร้อยละ 30 จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำคลองสียัด อ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา เขื่อนขุนด่านปราการชล และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งคณะที่ประชุมยังคงยืนยันให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือเติมน้ำต้นทุนให้กับเขื่อนขนาดใหญ่ที่น้ำยังคงมีปริมาณน้อยกว่าเกณฑ์ รวม 11 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เขื่อนแม่กวงอุดมธารา เขื่อนกิ่วลม เขื่อนกิ่วคอหมา เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนห้วยหลวง เขื่อนน้ำอูน เขื่อนน้ำพุง เขื่อนลำปาว อ่างเก็บน้ำทับเสลา และอ่างเก็บน้ำคลองสียัด
วันที่ 18 พฤษภาคม 2565 นายสำเริง แสงภู่วงค์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า จากผลการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ครั้งที่ 19/2565 เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2565 เวลา 13.00 น. ซึ่งมีการสรุปข้อมูลจากสภาพอากาศ ในช่วงวันที่ 17-18 พฤษภาคม 2565 พบว่ามรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมประเทศไทย ทะเลอันดามันและอ่าวไทย ทำให้ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตกยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่องและมีฝนตกหนักเป็นบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 19-23 พฤษภาคม 2565 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางด้านตะวันตก ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก
นายสำเริง กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์ความต้องการน้ำดังกล่าวจึงได้สั่งการให้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเตรียมความพร้อมและวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงในการปฏิบัติภารกิจทำฝนเพิ่มปริมาณน้ำให้กับเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ และช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรตามที่พี่น้องประชาชนมีการร้องขอเข้ามา โดยจากผลปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2565 กรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 4 หน่วยปฏิบัติการ ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่ขาดแคลนน้ำบางส่วนของจังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี และเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้กับเขื่อนภูมิพล จ.ตาก และอ่างเก็บน้ำคลองสียัดจ.ฉะเชิงเทรา
ทั้งนี้สำหรับพื้นที่การเกษตรที่ขาดแคลนน้ำในภูมิภาคอื่นๆ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ยังคงติดตามสภาพอากาศและวางแผนช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง โดยพี่น้องเกษตรกรและประชาชนยังสามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้ที่ช่องทางเพจ Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account TikTok : @drraa_prและหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100