Sunday, 3 November 2024 | 7 : 42 pm
Sunday, 3 November 2024
7 : 42 pm

วีซ่า จับมือ คาลเท็กซ์ เปิดให้บริการการชำระเงินแบบ คอนแทคเลสในปั๊มน้ำมันทั่วประเทศเป็นครั้งแรกในไทย

กรุงเทพฯ, 19 ธันวาคม 2562 – วีซ่า ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินในรูปแบบดิจิทัลชั้นนำระดับโลก ประกาศความร่วมมือกับ คาลเท็กซ์ เปิดรับการชำระเงินผ่านบัตรคอนแทคเลสเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ผู้ที่ใช้บริการในปั๊มคาลเท็กซ์สามารถชำระเงินผ่านการ “แตะ เพื่อจ่าย” และไม่ต้องยื่นบัตรชำระเงินของตนเองให้พนักงานปั๊มในกว่า 370 สาขาทั่วประเทศ

นางอลิซ พอตเตอร์ ประธานกรรมการและผู้จัดการใหญ่ บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด และ คุณสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย ฉลองความร่วมมือการเปิดรับการชำระเงินผ่านบัตรคอนแทคเลสในปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ทั่วประเทศ

การเปิดรับการชำระเงินผ่านบัตรคอนแทคเลสในปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่ในการเติมน้ำมันหรือซื้อสินค้า และสำหรับคาลเท็กซ์ การเปิดรับการชำระเงินผ่านบัตรคอนแทคเลสจะช่วยให้ขั้นตอนการชำระเงินรวดเร็วกว่าเดิม ลดคิวในการชำระเงิน และทำให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

คุณสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “วีซ่า และคาลเท็กซ์ มีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการทำให้การชำระเงินในปั๊มน้ำมันเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นสำหรับผู้บริโภค ด้วยเหตุนี้เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะมอบประสบการณ์การชำระเงินผ่านบัตรคอนแทคเลสของวีซ่าในปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ทั่วประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยหวังว่าความร่วมมือระหว่างทั้งสององค์กรในครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการชำระเงินผ่านบัตรคอนแทคเลสในกลุ่มผู้บริโภค ไปพร้อมๆ กับขยายจุดรับบัตรคอนแทคเลสทั่วประเทศไทย”

ผู้บริโภคชาวไทยมีความคุ้นเคยกับการชำระเงินแบบไร้เงินสด และยังมีความต้องการการชำระเงินที่ไร้รอยต่อมากยิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงการชำระเงินผ่านบัตรคอนแทคเลส  สอดคล้องกับผลสำรวจเกี่ยวกับการศึกษาเรื่องทัศนคติการชำระเงินของผู้บริโภคของวีซ่า[1] ที่ชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคชาวไทยส่วนใหญ่ (90 เปอร์เซ็นต์) ตระหนักถึงการชำระเงินในรูปแบบคอนแทคเลสด้วยบัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตรเติมเงิน ยิ่งไปกว่านั้น 4 ใน 5 ของผู้บริโภคชาวไทย (79 เปอร์เซ็นต์) มีความสนใจที่จะใช้การชำระเงินในรูปแบบคอนแทคเลส

“คาลเท็กซ์มุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์น้ำมันและบริการที่ยอดเยี่ยม โดยเราพยายามที่จะเติมเต็มประสบการณ์แห่งความสุขในทุกเส้นทางให้กับลูกค้า การเป็นเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันแบรนด์แรกที่รับบริการชำระเงินผ่านบัตรคอนแทคเลสทั้งเครือข่ายทั่วประเทศ ถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญของคาลเท็กซ์  ปัจจุบันผู้บริโภคในยุคดิจิทัลมีแนวโน้มที่จะพกเงินสดน้อยลงแต่นิยมที่จะชำระเงินด้วยบัตรเครดิตในการเติมน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ของเราเพิ่มมากขึ้น เรามั่นใจว่าลูกค้าจะให้การตอบรับการชำระเงินผ่านบัตรคอนแทคเลส ซึ่งจะช่วยให้ได้รับบริการที่สะดวกและรวดเร็วขึ้น การนำเสนอบริการชำระเงินผ่านบัตรคอนแทคเลส ที่สถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์โดยความร่วมมือกับวีซ่า ถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ “Smart Platform” ภายใต้วิสัยทัศน์ “Smart Value for All” เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน” นางอลิซ พอตเตอร์  ประธานกรรมการและผู้จัดการใหญ่ บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด ผู้ให้บริการสถานีบริการน้ำมันคุณภาพระดับโลกภายใต้ แบรนด์ “คาลเท็กซ์” กล่าว

การชำระเงินผ่านบัตรคอนแทคเลสช่วยให้ผู้ถือบัตรที่ออกโดยธนาคารต่างๆ สามารถ ‘แตะ เพื่อ จ่าย’ ด้วยบัตรเครติด บัตรเดบิต หรือบัตรเติมเงินของวีซ่าได้ ซึ่งการชำระเงินในรูปแบบนี้มีข้อดีหลักๆ ที่ช่วยให้ผู้ถือบัตรสามารถชำระเงินโดยที่ไม่ต้องปล่อยบัตรออกจากมือระหว่างการทำธุรกรรม โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป ลูกค้าจะไม่ต้องเซ็นชื่อเพื่อยืนยันการทำธุรกรรมสำหรับรายการที่ต่ำกว่าหรือเท่ากับ 1,500 บาท ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้ใช้เวลาในปั๊มน้ำมันน้อยลง และสามารถเดินทางจากจุดหนึ่งไปสู่อีกจุดหนึ่งได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

“หนึ่งในเป้าหมายหลักของวีซ่า คือการเพิ่มจุดชำระเงินสำหรับบัตรคอนแทคเลสในประเทศไทย เพื่อให้คนไทยสามารถ ‘แตะ เพื่อ จ่าย’ ได้ด้วยบัตรวีซ่าในมือ เราเชื่อว่าคนไทยจะเปิดรับ และรับรู้ถึงข้อดีต่างๆ ที่มาพร้อมกับการชำระเงินในรูปแบบคอนแทคเลสนี้ และเรายังคงเดินหน้าเป็นพันธมิตรกับร้านค้าต่างๆ ในหลายอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มช่องทางการชำระเงินในรูปแบบดิจิทัล และสนับสนุนประเทศไทยในการก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสด” คุณสุริพงษ์ กล่าวสรุป


[1] การสำรวจเกี่ยวกับการศึกษาเรื่องทัศนคติการชำระเงินของผู้บริโภคประจำปี 2561 ของวีซ่า จัดทำโดย Intuit Research ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2561 ในแปดประเทศที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม โดยรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างกว่า 4,000 คน ซึ่งรวมถึงกลุ่มคนวัยทำงานจากประเทศไทยจำนวน 500 คน ที่มีอายุระหว่าง 18 – 65 ปี ครอบคลุมในทุกระดับการศึกษาและมีรายได้ขั้นต่ำที่ 15,000 บาท เป็นต้นไป

Lastest